ถือว่าเป็นปัญหาโลกแตก เลยทีเดียวสำหรับข้อถกเถียงตลอด 10 ปีที่ผ่านมาว่าใครเป็นนักเตะเบอร์ 1 ของโลกในยุคนี้ ระหว่างลิโอเนล เมสซี กับคริสเตียโน โรนัลโด
เรื่องนี้เป็นเรื่องคุยกันมาเนิ่นนานจนยังไม่ได้บทสรุปสักที เพราะทั้งสองทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแทบจะไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ในระดับสโมสร อาทิ แชมป์ลีก, แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก บอลถ้วยรายการต่างๆของลีกนั้นๆ หรือแชมป์สโมสรโลก ทั้งสองก็กวาดแชมป์กันมาคนละไม่ต่ำกว่า 20-30 ถ้วยกันเลยทีเดียว
เท่านั้นยังไม่พอรางวัลส่วนตัวก็ยังเบียดกันมาแบบคู่คี่สูสีแบบผลัดกันได้คนละปีก็มีนั่นคือรางวัลลูกบอลทองคำหรือบัลลงดอร์ ที่ตอนนี้เมสซีได้ไป 7 ครั้ง ส่วนโรนัลโดได้ 5 สมัย ส่วนรางวัลอื่นๆ ก็ได้กันมาเกือบครบ
ส่วนในระดับทีมชาตินั้นเจ้าตัวก็ประสบความสำเร็จเช่นกันโดยทั้งคู่ได้แชมป์ระดับทวีปมาครอง โรนัลโด โปรตุเกสคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป หรือยูโร ปี 2016 มาครอง ส่วนเมสซีนั้นเพิ่งจะคว้าแชมป์ในนามทีมชาติครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วนี่เองหลังคว้าแชมป์ชิงแชมป์อเมริกาใต้ หรือโคปา อเมริกา ปี 2021 มาครองได้สำเร็จ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองถวิลหานั่นก็คือถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก ที่ทั้งสองยังไม่มีโอกาสจะได้ชูเอาเหนือหัวเลยสักที เช่นเดียวกับนักเตะอาชีพทั่วโลกทุกคนก็อยากคว้าแชมป์โลกเท่านั้น แต่ถ้วยนี้มันเป็นถ้วยพิเศษคนที่จะได้สัมผัสมันต้องเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ นอกจากนั้นยังต้องมีเรื่องของโชคเข้าข้างอีกด้วย
ทั้งเมสซีและโรนัลโดมาถึงตอนนี้ก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2022 กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาอายุ 35 ปี ส่วนกัปตันทีมชาติโปรตุเกสอายุ 37 ปีเข้าไปแล้ว สำหรับฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์คือบทสรุปของทั้งคู่ว่าใครจะยืนหนึ่งในวงการลูกหนังโลกชั่วโมงนี้
แม้ว่าทั้งสองจะไม่คิดเรื่องมานั่งเปรียบเทียบว่าใครจะเก่งที่สุดในโลก แต่บรรดาแฟนบอล กูรูทั้งหลาย หรือติ่งใครติ่งมันก็คิดของตัวเองเจ๋งที่สุด เพราะถ้าไม่ได้ข้อสรุปด้วยการคว้าแชมป์โลกเรื่องนี้ก็ยังถกเถียงกันตลอดไป
และในสุดท้ายเวทีตัดสินก็มีผู้ชนะจนได้เมื่อ ลิโอเนล เมสซี ได้เค้นฟอร์มสุดยอดออกมาจนพาทัพ “ฟ้า-ขาว” ผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 มาครองได้สำเร็จ
ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเมสซีที่โชว์ฟอร์มใน “เวิลด์คัพ 2022” เวอร์ชันกาตาร์ ถือว่าเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเขาในการลงเล่นถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ขนาดตอนอายุไม่เยอะและฟอร์มพีกๆอย่างตอนอายุ 23, 27 หรือ 31 ปี เมสซียังไม่สามารถเค้นฟอร์มได้ดีกว่าขนาดนี้ เรียกได้ว่ายิ่งแก่ยิ่งแรงจริงๆ
ในฟุตบอลโลก 2022 เมสซียิงไปถึง 7 ประตู ถือว่าเป็นการยิงมากที่สุดนับตั้งแต่เขาเล่นฟุตบอลโลกมาจำนวน 5 ครั้ง แถมเจ้าตัววิ่งแบบไม่มีหมดวิ่งกันลืมว่าตัวเองอายุ 35 ปีแล้วอีกต่างหาก
ถ้าทุกคนได้เห็นเมสซีทำจะแทบทุกอย่างในสนามแข่งให้กับทีมชาติอาร์เจนตินา ไม่ว่าจะเป็นการยิงประตู, ทำแอสซิสต์, วิ่งไล่บอล, เข้าสกัดบอล, มาร์กตัวผู้เล่น หรือแม้กระทั่งเคลียร์ลูกเตะมุม
ทุกอย่างที่กองหน้าปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำนั้นมันแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทที่เขามีและแรงปรารถนาที่จะคว้าแชมป์โลกให้ได้ จึงไม่แปลกใจ ที่ลูกทีม “ฟ้า-ขาว” ทุกคนนั้นจะวิ่งถวายหัวเพื่อปกป้องกัปตันทีมอย่างเต็มที่และทุกคนเค้นศักยภาพตัวเองออกมาเพื่อทำให้ฝันของเมสซีเป็นจริง
อดีตกองหน้าบาร์เซโลนาแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดที่เขาจะได้ไม่เสียใจในภายหลัง และสุดท้ายกองหน้าร่างเล็กก็ทำได้สำเร็จคว้าแชมป์โลกมาครองได้และทำความฝันของชาวอาร์เจนตินาให้เป็นจริงหลังจากรอคอยมานานถึง 36 ปี
แม้ว่าผลการตัดสินจะถูกมองว่าวัดกันที่ใครได้แชมป์ระดับเมเจอร์ครบมากที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือความทุ่มเทและบารมีของนักเตะคนนั้นๆ ที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาคือแข้งที่ยอดเยี่ยมที่สุด
และนั่นคือสิ่งที่ “ลิโอเนล เมสซี” ได้ทำและแสดงให้เห็นจนทำให้หลายคนยกให้เขาเป็นราชาลูกหนังโลกของยุคนี้โดยแท้จริง!!
สนใจแทงบอล เดิมพัน เว็บพนันอันดับ 1 เติม จ่าย จบ รับขาใหญ่ สมัครเลย UFA998.COM
สนับสนุนโดย UFA998 สนใจสมัครเดิมพันบอล UFABET แทงบอล คาสิโน สล็อต ครบวงจร